จากบทความการควบคุมความดันลมยางด้วย RFID และ ข้อดีข้อเสียของการเปลี่ยนลมยางเป็นไนโตรเจน ในปัจจุบัน มีการนำระบบแสดงค่าความดันลมยางแบบ real time (Tire Pressure Monitoring System : TPMS) เข้ามาช่วยเพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ขับขี่ โดยในสหรัฐอเมริกา ได้มีข้อกำหนดให้รถเล็กและรถตู้ที่มีน้ำหนักไม่เกิน 10,000 ปอนด์จะต้องติดตั้ง ระบบ TPMS ตั้งแต่ปี 2008 เหตุที่ต้องกำหนดให้ต้องติดตั้ง ระบบ TPMS นั้นก็เพราะว่า ความดันลมยางมีความสำคัญต่อความปลอดภัยและจำเป็นต่อการขับขี่ โดยผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยได้ประมาณการว่า 25% ของรถยนต์ส่วนบุคคลขับขี่รถภายใต้ล้อยางที่มีความดันลมยางต่ำกว่าที่กำหนด (Under inflated) ซึ่งความดันลมยางที่เหมาะสมจะนำไปสู่การขับขี่ที่นุ่มนวล ระยะการเบรกที่สั้นลง อายุการใช้งานของล้อยางที่ยาวขึ้น รวมถึงช่วยประหยัดน้ำมัน
ส่วนสาเหตุที่ความดันลมยางเปลี่ยนแปลงนั้นได้นำเสนอไปแล้วในบทความการเปลี่ยนลมยางเป็นไนโตรเจนแล้ว หากจะถามถึงความจำเป็นของการติดตั้ง ระบบ TPMS เราสามารถประมาณความดันลมยางโดยสายตาได้หรือไม่นั้น ต้องบอกว่าเป็นไปได้ยาก ดังนั้นการติดตั้ง ระบบ TPMS จึงมีความสำคัญ โดยการติดตั้ง ระบบ TPMS เพื่อแสดงความดันลมยางแบบ real time จะทำการติดตั้ง Sensor บนล้อยาง โดยข้อมูลที่อ่านได้จาก Sensor จะถูกถ่ายโอนไปยังบอร์ดวงจรเพื่อทำการประมวลผลและแสดงความดันลมยางให้กับคนขับได้ตลอดเวลา และเมื่อความดันลมยางของล้อยางเส้นใดเส้นหนึ่งต่ำกว่าค่ามาตรฐานที่กำหนดไว้ จะมีไฟเตือนแสดงให้คนขับขี่เห็นทันทีเพื่อให้ตรวจสอบสาเหตุที่ทำให้ลมยางมีความดันต่ำ แต่สิ่งที่ต้องระวังในการใช้งานระบบ TPMS คือ ในตอนเช้าซึ่งอากาศเย็นและรถจอดไม่ได้ใช้งานมาทั้งคืน ไฟเตือนจะแสดงซึ่งเมื่อขับขี่ไปซักระยะความดันภายในล้อยางก็จะเพิ่มขึ้นเนื่องจากอุณหภุมิภายในล้อยางเพิ่มขึ้นนั่นเอง ในเมืองไทยเรายังไม่มีข้อกำหนดสำหรับการติดตั้ง ระบบ TPMS ในรถยนต์ส่วนบุคคล แต่หากท่านผู้อ่านมีโอกาส ระบบ TPMS เป็นอุปกรณ์เสริมในรถยนต์ที่ไม่ควรพลาดในการติดตั้งเสริมครับ
No comments:
Post a Comment