เกี่ยวกับไนโตรเจน
ไนโตรเจนเป็นก๊าซแห้งและเฉื่อย จะถูกใช้เป็นลมยางในล้อเครื่องบิน ล้อรถแข่ง รถทางทหาร หรือล้อรถ off road ต่างๆ จุดเด่นของไนโตรเจนคือ รักษาระดับความดันลมยางไว้ได้นาน โดยไนโตรเจนสามารถซึมผ่านแก้มยางได้ช้ากว่าลมยางปกติซึ่งมีออกซิเจนร่วมอยู่ด้วย (โดยวัดค่า permeability coefficient ผ่านยาง ซึ่งพบว่าออกซิเจนสามารถซึมผ่านยางได้เร็วกว่า ไนโตรเจน 3-4 เท่า เนื่องจากขนาดโมเลกุลของออกซิเจนเล็กกว่าไนโตรเจนนั่นเอง) จึงเป็นผลให้ความดันลมยางลดลง
ภาพเปรียบเทียบขนาดของโมเลกุลออกซิเจนและไนโตรเจน
นอกจากนี้ความชิ้นในลมยางปกติจะทำให้เกิดสนิมและกัดกร่อน rim ของล้อยางได้ ขณะเดียวกันความชื้นที่อยุ่ในลมยางปกติจะเปลี่ยนสถานะจากของเหลวเป็นไอได้หากอุณหภูมิภายในล้อยางเพิ่มขึ้น ซึ่งจะทำให้ความดันลมยางมีค่าเพิ่มขึ้นได้ เป็นเหตุให้ความดันลมยางไม่คงที่ขณะใช้งาน
ดังนั้นข้อดีของการเติมไนโตรเจนคือ การเพิ่มอายุการใช้งานของล้อยาง ประหยัดพลังงาน และยานยนต์มีความปลอดภัยขณะใช้งาน สุดท้ายลดต้นทุนในการเปลี่ยนล้อยางนั่นเองครับ
จากการทดลองกับล้อยางใช้งานในพื้นที่จริง 3 พื้นที่ในอเมริกาพบว่า
1. ล้อยางเติมไนโตรเจนมีการลดลงของความดันลมยางต่ำกว่าล้อยางเติมลมปกติ ดังแสดงในตาราง ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าความดันลมยางต่ำเกินไปจะทำให้เกิดการสูญเสียพลังงานของล้อยางมีผลให้รถต้องใช้พลังงานมากขึ้นในการขับขี่
2 ผลพวงที่จะเกิดขึ้นต่อจากการที่ความดันลมยางต่ำคือ อัตราการสึกของดอกยาง ดังแสดงในตารางครับ จะพบว่าล้อยางเติมไนโตรเจนมีอัตราการสึกของดอกยางต่ำกว่า โดยจากตารางเป็นอัตราการสึกของล้อหน้ารถบรรทุก 18 ล้อ
3 เมื่อัตราการสึกต่ำส่งผลให้อายุการใช้งานนานขึ้นด้วยครับ ดังแสดงในตาราง
4. สุดท้าย Rolling Resistance เปลี่ยนแปลงน้อย เนื่องจากความดันลมยางมีค่าคงที่ ซึ่งต่างจากการเติมลมยางปกติที่พบว่าค่า Rolling Resistance มีการเพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก ซึ่งจะมีผลให้อุณหภูมิภายในล้อยางสูงขึ้นด้วยครับ
สรุป
การเติมไนโตรเจนจะช่วยรักษาระดับความดันภายในลมยางทำให้เพิ่มอายุการใช้งานของล้อยาง อุณหภูมิภายในล้อยางต่ำ ประหยัดพลังงาน และเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่
ข้อควรระวัง
ควรหาร้านที่ให้บริการไนโตรเจนที่คุณภาพสูง (ควรใช้ 95% purity) มิเช่นนั้นท่านก็อาจจะได้ลมยางปกติไปใช้งานแทนไนโตรเจนครับ
Ref.
EFFECT OF NITROGEN FILLING ON TIRE
ROLLING RESISTANCE AND VEHICLE
FUEL ECONOMY
Prakash Venkataraman
Clemson University
No comments:
Post a Comment